เส้นทางอาชีพ ของ ชูเฮ โยโมดะ

วัยเด็ก

โยโมดะ เกิดที่เมืองชิบะ จังหวัดชิบะ เริ่มเล่นฟุตบอลในสมัยเรียนชั้นประถมศึกษาที่เมืองโยโกฮามะ โดยเล่นมาเรื่อยๆจนกระทั่งย้ายกลับมาที่จังหวัดชิบะ แต่ในสมัยนั้น จังหวัดชิบะไม่มีทีมฟุตบอล จึงเริ่มหันไปเล่นเบสบอลแทน แต่เมื่อเข้าสู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้กลับมาสนใจฟุตบอล และเข้าชมรมฟุตบอลของโรงเรียน[2]

มัธยมปลาย มหาวิทยาลัย และทีมงานทีมชาติ

หลังจากนั้น โยโมดะเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลายนาราชิโนะ ก่อนจะเข้ามหาวิทยาลัยจุนเต็นโดในกรุงโตเกียว เป็นนักกีฬาประจำชมรมฟุตบอล และในช่วงนี้เริ่มสนใจจะเดินเส้นทางสายการสอนฟุตบอล จึงได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยสึกูบะ[3] และเริ่มเรียนรู้การเป็นโค้ชฟุตบอล และรับหน้าที่เป็นโค้ชให้กับชมรมนักเตะมหาวิทยาลัยสึกูบะ (พ.ศ. 2539-2541) ในระดับปริญญาโทนี้ อาจารย์ที่ปรึกษาคือโคโซ ทาชิมะ อดีตนักเตะทีมชาติญี่ปุ่น[4] (ช่วงปี พ.ศ. 2522-2523) และโยโมดะทำวิทยานิพนธ์เรื่อง"การเข้าสไลด์บอลในเกมฟุตบอล"[5]

ในช่วงปี พ.ศ. 2539 - 2541 ได้มีโอกาสเป็นแมวมองให้กับทีมงานฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นภายใต้การคุมทีมของโค้ชทาเคชิ โอกาดะไปด้วย[6] จึงได้มีโอกาสใกล้ชิดกับฟุตบอลโลก 1998 ในฐานะสต๊าฟฟ์

คอนซาโดเล ซัปโปโระ

หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2542 โยโมดะได้ตามโอกาดะไปเป็นทีมงานที่คอนซาโดเล ซัปโปโระ ในตำแหน่งผู้ช่วยโค้ช[7] ก่อนจะได้รับหน้าที่คุมทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 พาทีมคว้าแชมป์ระดับท้องถิ่น อย่าง Prince League Hokkaido ได้ 6 ครั้ง Premier League East 1 ครั้ง (ปี พ.ศ. 2554) และ J Youth Cup 1 ครั้ง (ปี พ.ศ. 2555) มีผลงานการปั้นเยาวชนขึ้นเป็นผู้เล่นอาชีพรวมแล้ว 32 คน (นับถึงปี พ.ศ. 2559)

โยโมดะ ได้ไลเซนส์จากสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นระดับ S เมื่อปี พ.ศ. 2558 และเมื่อคอนซาโดเล ซัปโปโระปลดโค้ชอิวิกา บาร์บาริช ชาวโครเอเชียเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 โยโมดะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมชุดใหญ่ และอยู่ในตำแหน่งจนถึงปัจจุบัน